รับวางระบบและออกแบบ Disaster Recovery
โซลูชันการกู้คืนระบบจากภัยพิบัติจะครอบคลุมหลายภาคส่วนในองค์กรของท่าน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย โทรศัพท์ พนักงาน หรือลูกค้า แต่บางทีสิ่งสำคัญที่สุด คือทำอย่างไรให้แผนกไอทีของคุณสามารถกอบกู้ระบบ และข้อมูลกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมโดยเร็วธุรกิจจำเป็นต้องให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องในระหว่างช่วงวิกฤติ เช่น เซิร์ฟเวอร์ล่ม ระบบถูกแฮ็กเกอร์หรือไวรัสโจมตี ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ โดยแผนกอบกู้ระบบจากภัยพิบัติจะช่วยรับประกันว่า ระบบต่างๆ ที่สำคัญของท่านจะฟื้นสภาพกลับมาทำงานได้ทันเวลาที่กำหนด และมีอัตราสูญเสียข้อมูลน้อยที่สุดตามสัญญาการให้บริการที่ได้ทำกับเรา
1. ประโยชน์ของ Solution Disaster Recovery
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาลูกค้า
- ยกระดับผลกำไรและเพิ่มผลผลิต เนื่องจากสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชันที่จำเป็นต่อธุรกิจได้แบบ 24x7
- บรรเทาความสูญเสียในช่วงภัยพิบัติให้เหลือน้อยที่สุด โดยรักษาสภาพพร้อมทำงานของระบบสำคัญๆ ให้ต่อเนื่องที่สุด
2. เริ่มต้นโครงสร้าง Disaster Recovery
- ต้องการให้กระบวนการทางธุรกิจของท่านกลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วแค่ไหน หลังจากเผชิญภัยพิบัติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม และอื่นๆ
- ระดับความเสี่ยงทางการเงินของธุรกิจ เช่น อัตราสูญเสียรายได้ต่อชั่วโมง หรือมูลค่าความเสียหายอันเกิดจากการสูญเสียลูกค้าในช่วงที่ระบบล่ม
- หลังจากเผชิญภัยพิบัติ จำเป็นต้องกู้ระบบกลับมาได้เร็วแค่ไหน (Recovery Time Objective - RTO) และต้องการข้อมูลย้อนกลับไปล่าสุดที่จุดใด (Recovery Point Objective - RPO) ซึ่งจะสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการทำโซลูชันที่ท่านเตรียมไว้
3. องค์ประกอบของเทคโนโลยี Disaster Recovery
- การเรพพลิเคตข้อมูลข้ามสาขา
- การเซตอัพเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ให้ช่วยกันทำงานแบบคลัสเตอร์
- การทำสำเนาข้อมูลในดิสก์มากกว่าหนึ่งลูกให้เหมือนกันทุกประการ
- การสร้างระบบเซิร์ฟเวอร์และดิสก์เสมือนจริง
- ศูนย์ข้อมูล และสถานที่ทำงานสำรอง
- บริการรับฝากเซิร์ฟเวอร์ แอพพลิเคชัน และข้อมูลภายนอกองค์กร
จากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 นั้น ก็ได้ทำให้องค์กรหน่วยงานต่างๆ ที่ซึ่งจริงๆ แล้วก็รู้เรื่องของการทำ DR เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีบ้างที่ยังไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้เพราะอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวแต่คงต้องโชคร้ายสุดๆถึงจะได้ใช้ประโยชน์จากการเตรียมระบบ DR ซักครั้งนึง ซึ่งคิดว่ามันคงจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเลย แต่เมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ขึ้นมาก็ทำให้ทุกคนรู้แล้วว่า Disaster Recovery (DR Site) ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเราอีกต่อไปแล้ว แต่อาจจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อใดก็ได้ในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องวางแผนและเตรียมการในเรื่องของ Recovery ไว้ก่อนล่วงหน้าให้เหมาะสม แต่ถึงจะรู้อย่างนี้แล้วบางหน่วยงานก็อาจจะยังลังเลอยู่ดี ซึ่งสาเหตุหลักก็มักจะไม่พ้นเรื่องของงบประมาณและความคุ้มค่าในการลงทุนนั่นเอง
ข้อจำกัดโดยทั่วไปของเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างระบบ DR Site
โดยทั่วไปแล้วการทำ Replicate ข้อมูลเพื่อใช้ในงาน DR นั้นก็ทำได้หลายๆ ทาง ไม่ว่าจะด้วยความสามารถของ Storage เองหรือจะเป็นการใช้ Software ช่วยทำ แต่ต่างก็มักจะมีข้อจำกัดคล้ายๆ กันนั่นก็คือ
- Hardware ที่ใช้สำหรับทำระบบ DR จะไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้เลย ต้องตั้งเอาไว้เฉยๆ เท่านั้น
- เมื่อถึงคราวจำเป็นที่เกิด Disaster ขึ้นมา กลับไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ DR ได้ บางครั้งข้อมูลก็ Replicate มาไม่ครบ, บางครั้ง Database ก็ Start ไม่ขึ้น หรืออื่นๆ ด้วยสาเหตุต่างๆ นานา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากระบบที่ทำงานมาเป็นเวลานานก็ย่อมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของ Configuration ของระบบได้ ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้มีการซ้อมทำ DR กันอยู่เรื่อยๆ ก็คงจะไม่รู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้น แต่ถ้าจะให้ซ้อมทำ DR บ่อยๆ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการซ้อมแต่ละครั้งจะมีผลกระทบกับงาน Operation ของธุรกิจ
- เมื่อถึงคราวที่จะต้องใช้งานระบบ DR ก็มักจะพบว่ามีขั้นตอนที่ต้องทำอยู่มาก ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะทำให้ระบบDR นั้นพร้อมใช้งาน